วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2560

✘ แมลงศัตรูพืชที่พบในกระบองเพชร ✘

ตุลาคม 12, 2560 0 Comments
ศัตรูพืช
ลักษณะของโรค
 เพลี้ยอ่อน
ตัวของเพลี้ยอ่อน จะเป็นสีเขียวน้ำตาลปนแดงหรือดำ เกาะดูดกินน้ำเลี้ยงตามดอกหรือส่วนอ่อนๆของต้น ต้นจะเจริญเติบโตผิดลักษณะ แคระแกร็น การป้องกันทำได้โดยใช้
เพลี้ยไฟ
เป็นแมลงขนาดเล็ก และเคลื่อนที่รวดเร็ว จะดูดกินน้ำเลี้ยงส่วนต่างๆของต้น ทำให้ผิวต้นซีด เป็นจุดขาวเหลือง
เพลี้ยแป้ง
ศัตรูตัวสำคัญของแคคตัส แมลงขนาดเล็ก ลำตัวอ่อนนุ่มปกคลุมด้วยไขมันและผงสีขาว จะอยู่บริเวณที่มองเห็นได้ยาก เช่นฐานตุ่มหนาม โคนต้น ซอกหนาม และราก จะดูดกินน้ำเลี้ยงส่วนต่างๆ ของต้น ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต หงิกงอ และตายในที่สุดครับ ควรเก็บทิ้ง หรือใช้แอลกอฮอล์เช็ดที่ผิวต้น
เพลี้ยแป้งที่ราก
จะคล้ายๆ เพลี้ยแป้ง อาศัยอยู่ที่ราก เป็นแมลงที่อันตรายต่อแคคตัสครับ จะกัดทำลายระบบราก ต้นจะเหี่ยวเฉา และตายในที่สุด ควรเก็บทิ้ง หรือใช้แอลกอฮอล์เช็ดที่ผิวต้น
ไรแดง
ตัวไรแดงจะสามารถมองเห็นได้ง่าย จะมองเห็นเป็นจุดเล็กๆ สีแดง หรือสีน้ำตาลแห้ง จะทำให้ต้นหยุดชะงักการเจริญเติบโต การกำจัดได้โดย ฉีดน้ำไล่
หอยทาก
จะกัดกินต้นแคคตัส ให้สังเกต ถ้ามีรอยสีเงินตามพื้น หอยทากกำลังจู่โจมแคคตัสของเราอยู่ เฉพาะต้นที่อยู่ที่ร่มและชื้น

✤ ไอเดียการจัดตกแต่ง ✤

ตุลาคม 12, 2560 0 Comments
แคคตัส หรือ กระบองเพชร เป็นพืชอวบน้ำที่มีความน่ารัก และปลูกเลี้ยงได้ง่าย ดังนั้นหลายๆ คนจึงนิยมนำมาปลูกเลี้ยงเพื่อประดับบ้านหรือคอนโด หากคุณเป็นคนนึงที่ชอบและอยากปลูกเลี้ยงแคคตัสประดับห้องหรือคอนโดบ้าง แต่ไม่อยากปลูกแบบธรรมดาๆ ที่แยกปลูกหลายๆ กระถางล่ะก็ วันนี้ Estopolis มีไอเดียจัดสวนถาด มาฝากให้ลองนำไปจัดตกแต่งห้องหรือคอนโดของตัวเองไว้ดูเล่นกัน

สวนถาดในโหลแก้วใสทรงกลม เน้นการใช้วัสดุปลูกและหินตกแต่งสีขาว รวมทั้งเลือกใช้แคคตัสที่มีโทนสีขาว เพื่อให้สวนถาดมีบรรยากาศของภูเขาหิมะ

 สวนถาดแบบหน้าผา ใช้กระถางแตกเป็นตัวแทนของภูเขา และจัดเรียงกระถางแคคตัสที่มีขนาดเล็กด้านในกระถางใหญ่ในลักษณะขั้นบันได


 แคคตัสในโหลแก้วทรงสูง ใช้แคคตัสต้นกลมใหญ่ ปลูกคู่กับแคคตัสแบบกระบองสูง และประดับตกแต่งเพิ่มเติมด้วยหินขนาดใหญ่ทรงสูงเช่นกัน


สวนถาดแคคตัสในโหลแก้ว เน้นการใช้วัสดุตกแต่ง เช่น หิน และขอนไม้เก่า ที่มีโทนสีน้ำตาล และปลูกแคคตัสแบบต่างระดับไว้ตรงกลาง


สวนถาดตามแนวยาว ใช้ภาชนะปลูกทรงสีเหลี่ยมผืนผ้ายาว ปลูกแคคดัสหลายๆ แบบตามแนวยาวของกระถาง โดยแทรกตกแต่งด้วยก้อนหอนขนาดใหญ่ในบางช่วง



วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560

✂ วิธีการขยายพันธุ์ ✂

กันยายน 14, 2560 0 Comments


     เลือกเด็ดใบที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่มีรอยขาดหรือตำหนิ



จากนั้นวางพักไว้สัก วันรอให้แผลแห้งสนิด แล้วค่อยนำไปวางบนดิน



ช่วงรอให้แผลแห้งไม่ควรรดน้ำ เพราะอาจจะทำให้แผลติดเชื้อราและเน่าไปในที่สุด



จากนั้นเมื่อแผลแห้ง นำมาวางไว้บนดิน พรมน้ำแค่พอให้หน้าดินชื้น วันละ 1-2 ครั้ง  หรือชำไว้แบบลืมๆ รดบ้างไม่รดบ้าง ก็ไม่เป็นไรครับ   1-2 เดือน รากแล้วต้นอ่อนจะเริ่มงอก











วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

☁ ส่วนผสมดินปลูก ☁

สิงหาคม 24, 2560 0 Comments



        
สูตรนี้ดีสุด ดินร่วน โปร่ง ระบายน้ำดี มีธาตุอาหารสมบูรณ์ และไม่เป็นพิษ รากเดินไว เด็ดหน่อปักลงดิน ประมาณ 1 อาทิตย์รากงอก

ส่วนผสมมีดังต่อไปนี้
หินภูเขาไฟ
ประโยชน์ : ทำให้ดินโปร่ง มีแร่ธาตุสารอาหารที่ต้นไม้ต้องการ และยังเรียกรากได้ดี

แกลบดำ
       ประโยชน์ : ทำให้ดินร่วนซุย เพิ่มแร่ธาตุ ดินอุ้มน้ำได้เป็นตัวดูดซับในกระบวนการบำบัดน้ำเสียบำบัดก๊าซพิษสำหรับดูดซับสารมลพิษต่างๆ 

 พีทมอส
   ประโยชน์ :  รักษาน้ำและความชื้น สามารถช่วยเก็บความชื้นและปลดปล่อยออกมาให้พืชอย่างช้า ๆ เมื่อพืชต้องการ

ใบก้ามปู
มีไนโตรเจนสูง และมีสารอาหารอื่นที่พืชต้องการอีกมากมายครับ




☀ วิธีการดูแล ☀

สิงหาคม 24, 2560 0 Comments

การดูแลรักษากระบองเพชรง่ายๆเพียงแค่ 3 ขั้นตอน ไปดูกันเลย !


1. การรดน้ำ 
วิธีการลดน้ำที่ถูกต้องคือต้องรดให้โชกถึงราก และรดครั้งต่อไปเมื่อดินเริ่มแห้ง ระวังอย่าให้น้ำขังหรือดินแฉะ แคคตัสอาจเน่าหรือเป็นโรคตายได้ต้องรู้ไว้ก่อนว่าแคคตัสแต่ละพันธุ์มีความต้องการปริมาณน้ำและความถี่ในการรดน้ำต่างกันไป จึงมีวิธีทดสอบง่ายๆ โดยการปักไม้แห้งเล็กๆ ลงไปให้ลึกถึงโคนกระถางในวันที่รดน้ำ เมื่อนับระยะเวลาจากวันที่รดน้ำวันแรกจนถึงวันที่ไม้ปักแห้ง ก็จะได้ช่วงเวลาในการลดน้ำที่เหมาะสม



2. แสงแดดและอุณหภูมิ 
ช่วงแดดที่เหมาะสมกับแคคตัสนั้นเป็นช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายที่แดดไม่ร้อนมาก นัก ถ้าได้รับแสงมากเกินไปต้นไม้จะแห้งเป็นสีน้ำตาล ดังนั้นต้องใส่ใจเรื่องร่มเงาหรือพรางแสงให้เหลือประมาณ 70-80% แคคตัสส่วนใหญ่เป็นพืชเมืองร้อนอยู่แล้ว ในเมืองไทยจึงสามารถเลี้ยงแคคตัสได้ดีในเกือบทุกฤดูในอุณหภูมิราว 27-32 องศาเซลเซียส



3. ธาตุอาหารหรือปุ๋ย 
ส่วนมากนิยมใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ เพราะมีสูตรให้เลือกมากมาย ซึ่งทำให้เกิดชนิดและปริมาณธาตุอาหารได้ง่าย ปริมาณการให้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแคคตัสแต่ละพันธุ์ ขนาดต้น รวมทั้งสภาพแวดล้อมในการปลูก แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ปุ๋ยเข้มข้นจนเกินไป

วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560

♣ ความเป็นมา ♣

สิงหาคม 17, 2560 0 Comments



ทำความรู้จักกันก่อน

       กระบองเพชร หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า แคคตัส (Cactus) มาจากภาษากรีก คำว่า (Kaktos) แปลว่าไม้มีหนาม เป็นไม้อวบน้ำประเภทหนึ่งจัดอยู่ในวง (Cactaceae) มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ แคคตัสจะมีตุ่มหนาม (Areole) ซึ่งเรียงตัวกันเป็นระเบียบตามแนวสัน เป็นส่วนที่สามารถเกิดตาดอกและแตกหน่อใหม่ได้ ด้วยต้นกำเนิดมาจากทะเลทราย แคคตัสจึงลดรูปใบเหลือแค่หนาม เพื่อลดการคายน้ำและป้องกันตัวเองจากศัตรู

      ในประวัติการค้นพบแคคตัสนั้น มีบันทึกในยุคของโคลัมบัส นอกจากเขาจะเป็นผู้ค้นพบโลกใหม่ (ทวีปอเมริกา) แล้วเขายังค้นพบแคคตัสอีก 2  ชนิด และนำแคคตัสนั้นกลับมาถวายพระราชินีอลิสซาเบลล่าแห่งสเปนเป็นคนแรกและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการขยายไปยังทวีปอื่นๆ รวมทั้งในเอเชียอย่างประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องการพัฒนาสายพันธุ์จนได้แคคตัสที่แปลกตาตุ่มหนามเรียงตัวเป็นลายสวยงาม ในเมืองไทยไม่มีบันทึกที่ชัดเจนว่าแคคตัสเข้ามาในช่วงไหนแต่มีการเพาะเลี้ยงและตั้งเป็นชมรมกระบองเพชร ซึ่งได้รับความนิยมในช่วงปี 2535 ก่อนจะซบเซาพราะวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 แลค่อยๆ ฟื้นตัวจนถึงปัจจุบัน
ต้นไม้อวบน้ำ
ซีดัม (Sedum  Morganianum) หรือ รวงข้าว
เป็นไม้อวบน้ำที่มีรูปร่างน่ารัก แถมดูกะทัดรัดเหมาะนำมาปลูกในพื้นที่แคบ เป็นไม้คลุมดินที่อายุยืน ลักษณะใบหนา กลมมน และมีสีสันแตกต่างกันออกไป ออกดอกในช่วงหน้าร้อน มีด้วยกันหลากหลายสายพันธุ์ และสามารนำไปปลูกรวมกับไม้อื่น ในกระถางใหญ่ได้ค่ะ แม้ว่าไม้อวบน้ำทั่ว ไปจะทนร้อนและทนแล้งได้ดี แต่เจ้าซีดัมนั้นกลับชอบอากาศเย็นสบายมากกว่า ฉะนั้นควรดูแลรดน้ำเพียงสัปดาห์ละ1-2 ครั้ง ตั้งให้โดนแสงอ่อน



ฮาโวเทีย (Haworthia mucronata) หรือ บัวแก้ว
เป็นไม้อวบน้ำรูปทรงสวยงามลักษณะส่วนใหญ่จะคล้ายกับว่านหางจระเข้แต่จะมีบางลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละสายพันธุ์ซึ่งสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันนั่นก็คือพันธุ์ม้าตัดและพันธุ์ม้าลายเพราะเลี้ยงง่าย รดเพียงสัปดาห์ละครั้ง ชอบแสงแต่ห้ามตั้งให้โดนแดดโดยตรงเด็ดขาด ควรหาที่กรองแสงมาบังในช่วงเวลากลางวัน ดูแลอย่าให้ดินมีความหนาแน่นจนเกินไป ควรเติมทรายหยาบ หินภูเขาไฟ หรือพีทมอสลงไปในดินเพื่อให้ดินโปร่ง และเอื้อให้รากเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่



เอชชิวาเรีย (Echeveria) หรือ กุหลาบหิน
ด้วยลักษณะที่คล้ายคลึงกับดอกกุหลาบ เอชชิว่าเลีย (Echeveria) จึงถูกขนานนามว่า "กุหลาบหิน"เป็นไม้อวบน้ำที่มีลักษณะใบหนาขึ้นซ้อนและเรียงสลับกันเป็นทรงกลมดูคล้ายกลีบดอกกุหลาบบางสายพันธุ์มีสีสันที่แตกต่างกันออกไปเจริญเติบโตด้วยการแตกหน่อดูแลรักษาง่ายรดแค่สัปดาห์ละครั้งก็พอชอบแดดในช่วงเช้า อย่าให้มีน้ำขังที่ใบเด็ดขาดเพราะอาจเกิดเชื้อราได้ และหมั่นตัดแต่งใบที่ตายแล้วทิ้งไปด้วยเพื่อช่วยป้องกันปัญหาแมลงกัดกิน